วันจันทร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2559

สัตว์ที่ฉันสนใจ

สุนัขมีต้นกำเนิดมาจากสุนัขป่านุษย์แถบขั้วโลกเหนือนำมันมาเลี้ยงเมื่อประมาณ 2,000 ปีที่แล้ว เชื่อกันว่า สุนัขป่าตัวแรกนั้น เกิดขึ้นเมื่อ 100 ล้านปีก่อน การอพยพข้ามถิ่นและทวีปต่างๆ ทำให้สุนัขมีหลายสายพันธุ์ ชาวจีนมีความเชื่อว่าสุนัขที่ชื่อ Fu มีความซื่อสัตย์ และนำความเจริญมาให้ เป็นสุนัขคล้ายพันธุ์ปักกิ่ง “อนูบิส” ซึ่งเป็นชื่อของเทพเจ้าอียิปต์ที่ตัวเป็นคน หัวเป็นสุนัข และเชื่อว่าสามารถส่งวิญญาณมนุษย์ได้ สุนัขพันธุ์ที่เรียกได้ว่าเป็นสุนัขพันธุ์ต้นตระกูลคือพันธุ์สุนัขทองที่มีอยู่อย่างแพร่หลายในปัจจุบัน ต่อมามีสุนัขป่าอีกพันธุ์หนึ่งที่มนุษย์นำมาเลี้ยงมีชื่อภาษาละตินว่า Conis Lupees ซึ่งแปลว่าสุนัขป่า สุนัขป่าชนิดนี้จะเชื่องกว่าสุนัขธรรมดา มีขนยาว หางเป็นแผง หูตั้ง กระดูกแก้มโหนก และหางของมันจะเอนขึ้นข้างบน มีนิสัยรักอิสระกว่าสุนัขทอง สุนัขป่านี้เมื่อมาอยู่กับมนุษย์ก็ผสมพันธุ์กับสุนัขทอง ออกลูกหลานสืบมาเป็นสุนัขพันธุ์ต่าง ๆ มากมาย พันธุ์สุนัขที่เห็นทุกวันนี้ได้รับเชื้อสายมาจากสุนัขพันธุ์ทองเกือบทั้งหมด การค้นคว้าวิจัยและศึกษาเรื่องราวของสุนัข ได้มีขึ้นในประเทศอังกฤษ ในแถบยุโรปและอเมริกา แล้วจึงแพร่หลายไปในส่วนต่าง ๆ ของโลก ในสหรัฐอเมริกาได้มีการจัดตั้งเป็นสมาคมผู้เลี้ยงสุนัขขึ้นในปี ค.ศ. 1878 (พ.ศ. 2421) สุนัขพันธุ์แท้ชนิดแรกที่ได้จดทะเบียนในสหรัฐอเมริกาคือ สุนัขพันธุ์อิงลิชเซทเตอร์ ในประเทศอังกฤษได้มีการรวบรวมกันตั้งสมาคมผู้เลี้ยงสุนัขขึ้นเช่นกันในปี ค.ศ. 1859 (พ.ศ. 2402) ในครั้งแรกสมาคมนี้ได้รับรองให้จดทะเบียนสุนัขพันธุ์แท้ได้ 40 สายพันธุ์ และได้จัดวิธีการรับรองสุนัขพันธุ์ต่าง ๆ เพื่อความเหมาะสมถึง 2 ครั้ง ในปี ค.ศ. 1881 (พ.ศ. 2424) สมาคมนี้ได้ให้การรับรองพันธุ์แท้ต่างๆ รวมเป็นจำนวน 46 พันธุ์ การแก้ไขเพิ่มเติมการรับรองเป็นสุนัขพันธุ์แท้เป็นครั้งสุดท้าย เมื่อปี ค.ศ. 1974 (พ.ศ. 2417) ได้มีสุนัขที่ให้การรับรองทั้งหมด 100 สายพันธุ์สำหรับในประเทศไทยนั้น ก็มีผู้สนใจการเลี้ยงสุนัขรวบรวมกันจัดตั้งสมาคมขึ้นเช่นกัน โดยปรารถนาจะส่งเสริมบำรุงและอำนวยประโยชน์ให้แก่ผู้เลี้ยงสุนัขเหมือนกับต่างประเทศ โดยใช้ชื่อว่า สมาคมผู้นิยมสุนัขแห่งประเทศไทย ได้ทำการจดทะเบียนตั้งสมาคมเมื่อปี ค.ศ. 1955 (พ.ศ. 2498) ถือเป็นการวางรากฐานในการเลี้ยงสุนัขขึ้นในประเทศไทยเป็นแห่งแรก และตั้งใจที่จะให้เป็นประโยชน์แก่ผู้เลี้ยงสุนัขในประเทศไทยได้เช่นเดียวกับต่างประเทศ

ทัศนศึกษา

กล่าวถึงจุดเริ่มต้นของ Amazing Art”  ว่า บริษัท อเมซิ่ง อาร์ท เล็งเห็นว่าในปัจจุบันผู้คนให้ความสนใจกับการท่องเที่ยวถ่ายรูปในอาร์ทแกลเลอรี่ต่างๆมากขึ้น โดยเฉพาะในรูปแบบ 3 มิติ  ที่สามารถเข้าไปมีส่วนร่วมกับภาพได้แบบเสมือนจริง จึงได้ทั้งความเพลิดเพลินจากความสวยงามเชิงศิลปะ และ ความสนุกสนานกับการสร้างสรรค์ภาพถ่ายของแต่ละคน  ดังนั้นจึงได้ติดต่อศิลปินชาวเกาหลีที่มีความเชี่ยวชาญในการวาดรูป 3 มิติ กว่า 30 ท่าน  บินตรงมาวาดรูปให้กับทาง Amazing Art ที่เมืองไทย ซึ่งเป็นภาพวาดที่ไม่ซ้ำกับที่ใดในโลก และความพิเศษอีกอย่างของ Amazing Art คือ เป็นครั้งแรกที่นำเทคโนโลยีรูปภาพแบบ 4 มิติ มาใช้ในอาร์ทแกลเลอรีที่เมืองไทยอีกด้วย นักท่องเที่ยวจะได้สนุกกับแสง สี เสียง ทำให้สามารถเก็บความประทับใจได้ทั้งภาพนิ่งและภาพวีดีโอ ส่วนเหตุผลที่เลือกมาเปิดที่พัทยาเนื่องจาก เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีความน่าสนใจและมีจำนวนนักท่องเที่ยวในแต่ละปีสูงมาก ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ

ปีใหม่


ปีใหม่


  วันขึ้นปีใหม่ มีประวัติความเป็นมาซึ่งเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยตามความเหมาะสม ตั้งแต่ในสมัยเริ่มแรกเมื่อชาวบาบิโลเนีย เริ่มคิดค้นการใช้ปฏิทินโดยอาศัยระยะต่าง ๆ ของดวงจันทร์เป็นหลักในการนับ เมื่อครบ 12 เดือน ก็กำหนดว่าเป็น 1 ปี และเพื่อให้เกิดความพอดีระหว่างการนับปีตามปฏิทินกับปีตามฤดูกาล จึงได้เพิ่มเดือนเข้าไปอีก 1 เดือน เป็น 13 เดือนในทุก ๆ 4 ปี

          ต่อมาชาวอียิปต์ กรีก และชาวเซมิติก ได้นำการปฏิบัติของชาวบาบิโลเนียมาดัดแปลงแก้ไขอีกหลายคราวเพื่อให้ตรงกับฤดูกาลมากยิ่งขึ้น จนถึงสมัยของกษัตริย์จูเลียต ซีซาร์ (ประมาณ 46 ปี ก่อนคริสต์ศักราช) ได้นำความคิดของนักดาราศาสตร์ชาวอียิปต์ชื่อโยซิเยนิส มาปรับปรุงให้หนึ่งปีมี 365 วัน โดยทุก ๆ 4 ปี ให้เติมเดือนที่มี 28 วัน เพิ่มขึ้นอีก 1 วัน เป็น 29 วัน คือเดือนกุมภาพันธ์ เรียกว่า อธิกสุรทิน เมื่อเพิ่มให้เดือนกุมภาพันธ์มี 29 วัน ให้ทุกๆ 4 ปี แต่วันในปฏิทินก็ยังไม่ค่อยตรงกับฤดูกาลนัก คือเวลาในปฏิทินยาวกว่าปีตามฤดูกาล เป็นเหตุให้ฤดูกาลมาถึงก่อนวันในปฏิทิน

          และในวันที่ 21 มีนาคม ตามปีปฏิทินของทุก ๆ ปี จะเป็นช่วงที่มีเวลากลางวันและกลางคืนเท่ากัน คือเป็นวันที่ดวงอาทิตย์จะขึ้นตรงทิศตะวันออก และลับลงตามทิศตะวันตก วันนี้ทั่วโลกจึงมีช่วงเวลาเท่ากับ 12 ชั่วโมงเท่ากัน เรียกว่า วันทิวาราตรีเสมอภาคมีนาคม (Equinox in March) 

          แต่ในปี พ.ศ. 2125 วัน Equinox in March กลับไปเกิดขึ้นในวันที่ 11 มีนาคม แทนที่จะเป็นวันที่ 21 มีนาคม ดังนั้นพระสันตะปาปาเกรกอรี่ที่ 13 จึงทำการปรับปรุงแก้ไขหักวันออกไป 10 วัน จากปีปฏิทิน และให้วันหลังจากวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2125 แทนที่จะเป็นวันที่ 5 ตุลาคม ก็ให้เปลี่ยนเป็นวันที่ 15 ตุลาคมแทน (ใช้เฉพาะในปี พ.ศ. 2125) ปฏิทินแบบใหม่นี้จึงเรียกว่าปฏิทินเกรกอเรี่ยน จากนั้นได้ปรับปรุงประกาศใช้ วันที่ 1 มกราคม เป็นวันเริ่มต้นของปีเป็นต้นมา

วันอาทิตย์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2559

อาชีพที่อยากเป็น


อาชีพ

ผู้ปฏิบัติงานอาชีพนี้ ได้แก่ ผู้ทำงานเกี่ยวกับกฎหมาย ให้คำปรึกษาทางกฎหมาย และให้บริการทางกฎหมายอื่นๆ รวมถึงการปฏิบัติงานทั่วๆ ไปเกี่ยวกับกฎหมาย เช่น การให้คำปรึกษาทางกฎหมาย การจัดทำเอกสารเกี่ยวกับกฎหมาย การว่าความคดีอาญา และคดีแพ่ง ให้คำแนะนำแก่ลูกความเกี่ยวกับปัญหาบุคคล และธุรกิจในแง่ของกฎหมาย และทำแทนลูกความในเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวกับกฎหมาย ดำเนินการฟ้องผู้ต้องหาต่อศาลในนามของเจ้าหน้าที่ฝ่ายบ้านเมือง ทนายความเป็นอาชีพหนึ่งของนักกฎหมาย ที่เป็นองค์ประกอบสำคัญของกระบวนการยุติธรรมอันประกอบด้วย ศาล อัยการ ตำรวจ และราชทัณฑ์

กีฬาสี



กีลาสีปีนี้

วันกีฬาสีที่ผ่านมามีความสนุก มีการแข่งขันกีฬาหลายๆประเภทมีความสนุกสนาน 
มีหรีดเดอร์เต้น และร้องเพลงตอนแข่งเต้นหรีดเดอร์ ชอบมากก
กีฬาสีที่ผ่านมาทำให้รู้จักความสามัคคีในการเล่นกีฬา





วันพ่อ




วันพ่อ

วันพ่อแห่งชาติ ได้จัดให้มีขึ้นครั้งแรก เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2523 โดยคุณหญิงเนื้อทิพย์ เสมรสุต นายกสมาคมผู้อาสาสมัครและช่วยการศึกษา หลักการและเหตุผลที่มีการจัดตั้งวันพ่อขึ้นแห่งชาติ เนื่องจากพ่อ เป็นบุคคลผู้มีพระคุณและมีบทบาทสำคัญต่อครอบครัวและสังคมที่ผู้เป็นลูกจะเคารพเทิดทูนและตอบแทนพระคุณด้วยความกตัญญู และสังคมควรที่จะยกย่องให้เกียรติรำลึกถึงผู้เป็นพ่อ จึงถือเอาวันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปี ซึ่งเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชเป็น "วันพ่อแห่งชาติ"

อาหารไทย







อาหาร

ส่วนประกอบ

  • กุ้งแห้งอย่างดีโขลกพอละเอียด ½ ถ้วย
  • กระเทียมไทยปอกเปลือก 20 กลีบ
  • กะปิ 3 ช้อนโต๊ะ
  • มะดันซอย 10 ลูก (หรือ มะม่วงสับ 1 ถ้วย)
  • มะอึกหั่นบาง 5 ลูก
  • น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะเนื้อหมูติดมัน 200 กรัม
  • หอมแดงซอย 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาล ¼ ถ้วยประมาณ 50 กรัม
  • น้ำเปล่า 100 กรัม
  • พริกขี้หนูสวน 30 เม็ด
  • น้ำตาลปีบ 4-5 ช้อนโต๊ะ
  • หมูหวาน ½ ถ้วย
  • ไข่เค็ม 2 ฟอง
  • ปลาดุกฟูกรอบ ½ ถ้วย
  • คนอร์อร่อยชัวร์ 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมัน 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

  • โขลกกระเทียม กะปิ ให้ละเอียด ใส่มะดันซอย มะอึก โขลกให้เข้ากัน ใส่พริก ทุบพอแตก ใส่น้ำตาลปีบ น้ำมะนาว พักไว้
  • ตั้งกระทะน้ำมันบนไฟกลางจนร้อน ใส่น้ำพริกลงผัด ใส่กุ้งแห้ง และคนอร์อร่อยชัวร์ผัดให้เข้ากัน ใส่หมูหวาน ผัดให้เข้ากัน ชิมรสให้มีสามรส
  • การจัดให้สวยงาม ตักน้ำพริกใส่ถ้วย นำไข่เค็มหั่นเต๋าโรยหน้า แนมด้วยหมูหวาน และปลาดุกฟู รับประทานกับผักสด เช่น แตงกวา กะหล่ำปลี ถั่วฝักยาว ใบมะกอก มะเขือต่างๆ ขมิ้นขาว ถั่วพู
  • หมูหวาน
  • หั่นหมูเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าประมาณ 1 เซนติเมตร
  • ตั้งกระทะน้ำมันบนไฟกลางจนร้อน ใส่หอมแดงลงไปผัดพอหอม ใส่หมู และคนอร์อร่อยชัวร์ลงไป ผัดให้เข้ากันจนหมูสุก ใส่น้ำตาล คนจนน้ำตาลละลาย
  • ใส่น้ำลงไป ใช้ไฟอ่อนเคี่ยว ระวังอย่าให้หมูแข็งเคี่ยวจนน้ำตาลเหนี่ยวเป็นสีน้ำตาลอ่อน






อ้างอิงhttps://www.youtube.com/watch?v=o053jB8ikV8